ถ้าคุณเคยขอสินเชื่อแล้วโดนปฏิเสธโดยไม่รู้สาเหตุ หรือสงสัยว่าทำไมคะแนนเครดิตถึงต่ำ ทั้งหมดนี้อาจเกี่ยวข้องกับข้อมูลในระบบของ “บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ” หรือ NCB หน่วยงานที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและวิเคราะห์ประวัติสินเชื่อของประชาชนไทย
NCB คืออะไร? หน้าที่ขององค์กรนี้ในระบบการเงินไทย
NCB (National Credit Bureau) เป็นองค์กรกลางที่รวบรวมข้อมูลสินเชื่อของบุคคลและนิติบุคคลจากธนาคารและสถาบันการเงินทั่วประเทศ แล้วจัดเก็บไว้เป็นรายงานเครดิตส่วนบุคคล ข้อมูลเหล่านี้รวมถึงยอดหนี้คงค้าง ประวัติการชำระหนี้ ความล่าช้าในการจ่าย และจำนวนสินเชื่อที่คุณมีอยู่ในระบบ ทั้งนี้ NCB ไม่ได้ให้คะแนนเอง แต่ให้ข้อมูลเพื่อให้สถาบันการเงินใช้พิจารณา
ข้อมูลที่บันทึกในระบบจะเก็บไว้นาน 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชี เช่น บัญชีปกติจะถูกเก็บไว้ 3 ปี ขณะที่บัญชีที่มีสถานะผิดนัดชำระหนี้จะอยู่นานสูงสุด 5 ปี
ใครใช้ข้อมูลจาก NCB บ้าง? ทำไมคุณจึงควรใส่ใจ
- ธนาคารพาณิชย์: ใช้ข้อมูลเครดิตของคุณในการตัดสินใจอนุมัติสินเชื่อ บัตรเครดิต หรือวงเงินกู้
- บริษัทบัตรเครดิต: เพื่อพิจารณาความเสี่ยงและกำหนดวงเงินให้เหมาะสม
- บริษัทลีสซิ่งและไฟแนนซ์: ตรวจสอบความสามารถในการผ่อนชำระก่อนปล่อยสินเชื่อรถยนต์หรือสินเชื่อเช่าซื้อ
- สถาบันรัฐและสหกรณ์: ใช้ประกอบการพิจารณาเงินกู้เพื่อสวัสดิการ หรือการสนับสนุนทางการเงิน
ข้อมูลอะไรบ้างที่ NCB จัดเก็บ?
- จำนวนสินเชื่อที่คุณมี – รวมทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน รถ หรือส่วนบุคคล
- ประวัติการชำระเงิน – แสดงว่าคุณจ่ายตรงเวลาหรือมีการล่าช้าหรือไม่
- ยอดหนี้คงค้าง – เผยให้เห็นว่าคุณมีภาระหนี้มากน้อยเพียงใด
- จำนวนครั้งที่สมัครสินเชื่อ – บ่งบอกพฤติกรรมทางการเงินในระยะสั้น
เคล็ดลับดูแลประวัติเครดิตให้ดีอยู่เสมอ
- ตรวจสอบรายงานเครดิตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง – ทำผ่านเว็บไซต์ NCB หรือแอปธนาคารชั้นนำ เช่น KPlus, SCB Easy
- หลีกเลี่ยงการสมัครสินเชื่อหลายแห่งพร้อมกัน – อาจทำให้ดูเสี่ยงในสายตาสถาบันการเงิน
- จ่ายหนี้ตรงเวลา – นี่คือสิ่งที่มีผลมากที่สุดต่อภาพลักษณ์เครดิตของคุณ
- ลดหนี้ที่ไม่จำเป็น – หากมีวงเงินหลายบัญชี ควรวางแผนทยอยปิด
สรุป: ทำไม NCB จึงสำคัญและควรใส่ใจอย่างไร
NCB ไม่ใช่แค่ฐานข้อมูลธรรมดา แต่เป็นหัวใจของระบบสินเชื่อไทย ข้อมูลที่คุณสร้างไว้วันนี้ จะส่งผลต่อการเข้าถึงโอกาสทางการเงินในอนาคต ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ การรู้จักและดูแลประวัติเครดิตของตนเองคือกุญแจสู่ความมั่นคงและความสำเร็จในด้านการเงิน