บัตรเครดิตในประเทศไทยในปัจจุบันไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือในการใช้จ่าย แต่ยังเป็นช่องทางหนึ่งในการ รับสิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น เงินคืน (Cashback) หรือ คะแนนสะสมไมล์ (Miles) ที่สามารถแลกเที่ยวบิน ห้องพัก หรือบริการต่าง ๆ ได้
คำถามคือ แบบไหนคุ้มกว่ากัน? ควรเลือกใช้บัตรแบบไหนให้เหมาะกับพฤติกรรมของเรา? บทความนี้จะช่วยคุณวิเคราะห์อย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริงของผู้ใช้ในประเทศไทย
ทำความเข้าใจกับ Cashback และ Miles
Cashback คืออะไร?
Cashback คือเงินคืนเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดใช้จ่าย เช่น ใช้จ่าย 1,000 บาท ได้เงินคืน 1-5% กลับมาเข้าบัญชีบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารของคุณ
จุดเด่นคือ ได้เงินคืนจริง และสามารถนำไปใช้จ่ายหรือผ่อนคลายภาระหนี้ได้ทันที
Miles คืออะไร?
Miles คือคะแนนที่ได้จากการใช้จ่าย และสามารถ แลกเป็นตั๋วเครื่องบิน, อัปเกรดชั้นโดยสาร, เข้าห้องรับรองสนามบิน หรือสิทธิประโยชน์ในการเดินทางอื่น ๆ ได้
โดยปกติคะแนนจะถูกผูกไว้กับสายการบินพันธมิตร เช่น Thai Airways (Royal Orchid Plus), Singapore Airlines (KrisFlyer), หรือระบบ Star Alliance
เปรียบเทียบ Cashback และ Miles แบบเจาะลึก
1. ความง่ายในการใช้งาน
- Cashback: เข้าใจง่าย ได้รับเงินคืนโดยตรงอัตโนมัติ ไม่มีเงื่อนไขซับซ้อน
- Miles: ต้องเข้าใจระบบสะสม, การแลกแต้ม, ฤดูกาลบิน, และเงื่อนไขของสายการบิน
2. ความคุ้มค่า
- Cashback: เหมาะกับคนที่ใช้จ่ายในประเทศ ใช้จ่ายต่อเดือน 10,000–50,000 บาท จะเห็นเงินคืนกลับมาอย่างสม่ำเสมอ
- Miles: คุ้มมากสำหรับคนที่เดินทางต่างประเทศบ่อย เช่น บินไปญี่ปุ่น ฮ่องกง ยุโรป หรือบิน Business Class
3. อายุการใช้งานของสิทธิ์
- Cashback: เงินคืนจะได้รับภายใน 1-2 รอบบิล และไม่มีวันหมดอายุ
- Miles: ส่วนใหญ่มีอายุ 3 ปี หากไม่ใช้จะหมดอายุทันที
4. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
- Cashback: ใช้ได้ทุกการใช้จ่าย ไม่จำกัดหมวด
- Miles: ต้องแลกตามเงื่อนไขของสายการบิน เช่น วันที่มีที่ว่าง หรือจองล่วงหน้าเท่านั้น
5. ไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสม
- Cashback: เหมาะกับคนที่อยู่ในประเทศไทยเป็นหลัก ใช้จ่ายประจำในห้าง ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือออนไลน์
- Miles: เหมาะกับนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว คนที่เดินทางต่างประเทศ 2-3 ครั้งต่อปีขึ้นไป
ตัวอย่างจากผู้ใช้งานจริงในประเทศไทย
คุณแอน (อายุ 28 ปี / ทำงานออฟฟิศในกรุงเทพฯ)
ใช้บัตรเครดิตแบบ Cashback ของ KBank Platinum และ SCB UP2ME ใช้จ่ายเดือนละประมาณ 20,000 บาท ได้เงินคืนเฉลี่ย 600–800 บาทต่อเดือน นำไปหักยอดชำระบัตรได้ทันที
คุณแม็กซ์ (อายุ 35 ปี / ทำธุรกิจและบินต่างประเทศปีละ 5 ครั้ง)
ใช้บัตร UOB Privimiles และ Citi Prestige สะสมคะแนนไปแลกตั๋ว Business Class กับ Thai Airways โดยแลกตั๋วไป-กลับญี่ปุ่นในราคาเพียง 40,000 ไมล์ ประหยัดไปกว่า 25,000 บาท
ข้อควรระวังก่อนเลือกประเภทบัตร
- ตรวจสอบ อัตราการแลกคะแนน เช่น ใช้จ่ายเท่าไหร่ถึงจะได้ 1 ไมล์ หรือเงินคืน 1 บาท
- ดูเงื่อนไข วงเงินขั้นต่ำและรายได้ เพราะบัตรที่ให้ไมล์ดีมักต้องรายได้สูงกว่า
- เปรียบเทียบ ค่าธรรมเนียมรายปี และสิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น Lounge, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฯลฯ
- หากคุณไม่ได้เดินทางบ่อย ไมล์อาจหมดอายุก่อนที่จะได้ใช้งานจริง
เคล็ดลับในการใช้บัตรให้คุ้มค่าที่สุด
- เลือกบัตรที่เหมาะกับพฤติกรรมของคุณ ไม่ใช่ตามโฆษณา
- ใช้บัตรแบบ “ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี” ถ้าไม่ได้ใช้งานหนัก
- วางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า เช่น เติมน้ำมัน ซื้อของในห้าง ใช้จ่ายออนไลน์ ให้ครบหมวดที่ให้ Cashback หรือ Miles
- อย่าลืมตรวจสอบยอดคงค้าง และชำระเต็มจำนวนทุกเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย
- ใช้แอปของธนาคารเพื่อตรวจสอบยอดสะสมเงินคืนหรือคะแนนแบบเรียลไทม์
ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่า “Cashback หรือ Miles” แบบไหนดีกว่า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ ไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมการใช้จ่าย และเป้าหมายของคุณ
หากคุณใช้ชีวิตในประเทศ เน้นประหยัดค่าใช้จ่าย ใช้จ่ายประจำเดือนต่ำกว่า 50,000 บาท — Cashback อาจตอบโจทย์
แต่ถ้าคุณบินบ่อย มีแผนเที่ยวต่างประเทศ หรือชอบประสบการณ์พรีเมียม — Miles คือสิ่งที่คุ้มค่ากว่า
ก่อนสมัครบัตรเครดิตครั้งต่อไป อย่าลืมพิจารณาให้ดีว่า “สิทธิพิเศษนั้นตรงกับชีวิตคุณจริงหรือเปล่า?” เพื่อให้คุณใช้ทุกบาทอย่างคุ้มค่าและชาญฉลาด