หลายคนในประเทศไทยเคยประสบปัญหา สมัครสินเชื่อไม่ผ่าน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต หรือสินเชื่อรถยนต์ เมื่อถูกปฏิเสธโดยไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด มักเกิดความสับสนและกังวลว่า “เราทำผิดอะไร?” “ชื่อติดเครดิตบูโรหรือเปล่า?” หรือ “จะกลับมากู้ได้อีกไหม?”
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับระบบ เครดิตบูโร (NCB) ของประเทศไทย อธิบายให้เข้าใจง่ายว่าทำไมคุณถึงกู้ไม่ผ่าน วิธีตรวจสอบสถานะเครดิตของตนเอง และขั้นตอนล้างชื่อออกจากระบบ พร้อมเทคนิคฟื้นฟูประวัติเครดิตเพื่อเตรียมตัวขอสินเชื่อใหม่อย่างมั่นใจ
เครดิตบูโร (NCB) คืออะไร?
บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า NCB เป็นหน่วยงานกลางที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการใช้สินเชื่อของบุคคลและนิติบุคคลทั่วประเทศ โดยรับข้อมูลจากธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต ลิสซิ่ง และสถาบันการเงินอื่น ๆ
ข้อมูลที่เก็บไว้ ได้แก่ ยอดหนี้ปัจจุบัน สถานะการชำระเงิน วันที่เปิดบัญชี ประวัติการค้างชำระ การผิดนัด และสถานะการปิดบัญชี โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อ
ทำไมถึงสมัครสินเชื่อไม่ผ่าน?
แม้คุณจะมีรายได้ประจำ หรือมีงานมั่นคง แต่ถ้าคุณมีพฤติกรรมทางการเงินที่ธนาคารมองว่า “เสี่ยง” คุณก็มีโอกาสถูกปฏิเสธได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น:
- เคยผิดนัดชำระหนี้นานกว่า 90 วัน
- มีบัญชีสินเชื่อที่ยังคงค้างชำระ
- มีประวัติชำระล่าช้าต่อเนื่อง
- เปิดบัตรเครดิตหลายใบในเวลาใกล้กัน
- ไม่เคยมีสินเชื่อในระบบมาก่อนเลย (ไม่มีข้อมูลให้ประเมิน)
ระบบจะมองคุณว่า “ไม่มีหลักฐานว่าจ่ายตรงเวลาได้จริง” ซึ่งเสี่ยงต่อการผิดนัดในอนาคต
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีประวัติเครดิตดีหรือไม่?
คุณสามารถ ขอตรวจสอบรายงานเครดิตของตนเอง ได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น:
- แอป NCB e-Credit Report
- เว็บไซต์ www.ncb.co.th
- จุดบริการที่ธนาคาร ห้างสรรพสินค้าหรือไปรษณีย์
โดยเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 150 บาท รายงานจะระบุชื่อบัญชีสินเชื่อทั้งหมดที่คุณมี ประวัติการชำระว่า “ดีเยี่ยม”, “ล่าช้า”, หรือ “ค้างชำระ” พร้อมระบุวันที่ปิดบัญชี หากมี
ถ้าชื่อติดเครดิตบูโร ต้องทำอย่างไร?
ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า การติดเครดิตบูโรไม่ได้หมายความว่าคุณผิดกฎหมาย แต่หมายถึงคุณมีพฤติกรรมทางการเงินที่ยังไม่เหมาะสมในการขอสินเชื่อใหม่ ณ เวลานั้น ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:
1. ชำระหนี้ค้างทั้งหมด
เริ่มต้นจากการชำระหนี้ทุกบัญชีให้ครบถ้วน ทั้งยอดค้าง ยอดดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม หากคุณไม่มีเงินก้อน อาจติดต่อธนาคารเพื่อ ขอปรับโครงสร้างหนี้ หรือผ่อนชำระแบบลดดอกเบี้ยในระยะยาว
2. ขอเอกสารยืนยันการชำระหนี้
หลังชำระหนี้แล้ว ให้ขอหนังสือรับรองการปิดบัญชี หรือใบเสร็จล่าสุดไว้เป็นหลักฐาน หากข้อมูลใน NCB ไม่อัปเดต คุณสามารถใช้เอกสารนี้เป็นหลักฐานยื่นอุทธรณ์ได้
3. รอระบบอัปเดตข้อมูล
โดยทั่วไป ธนาคารจะรายงานสถานะการปิดบัญชีให้ NCB ภายใน 30-60 วัน คุณควรรอประมาณ 2 เดือน ก่อนจะขอรายงานใหม่มาตรวจสอบว่าข้อมูลถูกต้องแล้วหรือไม่
4. ไม่ควรรีบสมัครสินเชื่อใหม่ทันที
แม้ว่าคุณจะชำระหนี้หมดแล้ว แต่การสมัครสินเชื่อใหม่ทันทีอาจทำให้ถูกปฏิเสธซ้ำอีกครั้ง เพราะธนาคารต้องการเห็น “ประวัติที่ฟื้นตัวแล้ว” ควรรอ 3-6 เดือนก่อนยื่นสมัครใหม่
วิธีฟื้นฟูประวัติเครดิตหลังจากล้างหนี้
เมื่อชื่อของคุณพ้นจากสถานะค้างชำระแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างความน่าเชื่อถือใหม่ในระบบ
- เริ่มจากสินเชื่อขนาดเล็ก: เช่น บัตรเครดิตแบบค้ำประกันเงินฝาก หรือสินเชื่อจากแอปที่อนุมัติง่าย
- ชำระตรงเวลา: อย่าล่าช้าแม้แต่วันเดียว เพราะระบบจะเริ่มบันทึกใหม่ทันที
- ใช้วงเงินไม่เกิน 30-40%: การใช้วงเงินสูงเกินไปมักถูกมองว่าเสี่ยง
- ไม่เปิดบัญชีหลายรายการ: การสมัครสินเชื่อหลายที่ในเวลาเดียวกันอาจทำให้คะแนนตก
- ใช้แอปจัดการการเงิน: เช่น Piggipo หรือ Money Lover เพื่อควบคุมรายรับรายจ่าย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ NCB
ประวัติเครดิตอยู่ในระบบนานแค่ไหน?
ข้อมูลเครดิตจะถูกเก็บไว้ในระบบ NCB นาน 3 ปีนับจากวันที่ปิดบัญชี แม้ชำระหนี้หมดแล้ว ข้อมูลจะยังแสดงอยู่ในระบบ แต่หากไม่มีการค้างชำระในช่วงหลัง ธนาคารจะมองว่าเสี่ยงลดลง
สามารถลบชื่อออกจาก NCB ได้ไหม?
ไม่สามารถลบข้อมูลออกเองได้ ระบบจะอัปเดตโดยอัตโนมัติหลังจากธนาคารแจ้งข้อมูลใหม่
เคยติดเครดิตบูโรจะซื้อบ้านได้ไหม?
ได้ หากคุณสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีพฤติกรรมทางการเงินที่ดีขึ้นในช่วง 6-12 เดือนหลังจากปิดหนี้ และไม่มีการค้างชำระอีก
ไม่มีประวัติเครดิตเลย สมัครสินเชื่อได้ไหม?
ยากขึ้นเล็กน้อย เพราะไม่มีข้อมูลให้ธนาคารวิเคราะห์ แนะนำให้เริ่มจากบัตรเครดิตแบบมีเงินฝากค้ำประกัน เพื่อสร้างเครดิตในระบบ
ตัวอย่างจากชีวิตจริง
คุณนัท อายุ 34 ปี พนักงานบริษัทในเชียงใหม่ เคยมีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบรวมกันกว่า 100,000 บาท และผิดนัดชำระช่วงโควิด-19 ทำให้ชื่อถูกบันทึกในเครดิตบูโร
ภายหลังเขาเจรจากับธนาคารและขอผ่อนชำระแบบลดดอกเบี้ยเป็นเวลา 18 เดือน เมื่อครบกำหนด เขาได้ขอใบปลดหนี้จากทุกธนาคาร และรอให้ข้อมูลอัปเดตใน NCB
6 เดือนต่อมา เขาลองสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลกับ Line BK และได้รับอนุมัติในวงเงินเริ่มต้น พร้อมดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากมีประวัติใหม่ที่ดีตลอดช่วงหลัง
การถูกปฏิเสธสินเชื่อไม่ใช่เรื่องน่าอาย และไม่ใช่จุดจบของเส้นทางทางการเงินของคุณ หากคุณรู้จักวิธี ล้างชื่อจากเครดิตบูโร ฟื้นฟูประวัติเครดิต และปรับพฤติกรรมการใช้เงิน อย่างมีวินัย คุณจะสามารถกลับมาเข้าถึงสิทธิทางการเงินได้อีกครั้ง
เริ่มวันนี้ จากการตรวจเครดิตของตัวเอง และวางแผนเคลียร์หนี้อย่างจริงจัง เพื่ออนาคตที่มั่นคงและเข้าถึงโอกาสทางการเงินได้อย่างเต็มที่