“ติดเครดิตบูโรไหม?” คือคำถามที่หลายคนกังวล โดยเฉพาะเมื่อจะขอสินเชื่อ สมัครบัตรเครดิต หรือซื้อบ้าน/รถ เพราะสถาบันการเงินทุกแห่งจะตรวจ ข้อมูลเครดิต จาก NCB (National Credit Bureau) ก่อนอนุมัติสินเชื่อ
โชคดีที่ปัจจุบันคุณสามารถ เช็กเครดิตบูโรด้วยตัวเองผ่านมือถือหรือเว็บไซต์ ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไปธนาคาร บทความนี้จะสอนคุณ เช็กเครดิตบูโรออนไลน์แบบละเอียด ทั้งผ่านแอป Krungthai NEXT, SCB Easy, K PLUS และเว็บไซต์ของเครดิตบูโรโดยตรง
เครดิตบูโร (NCB) คืออะไร?
เครดิตบูโร หรือ NCB (National Credit Bureau) เป็นหน่วยงานกลางที่รวบรวมข้อมูลสินเชื่อและประวัติการชำระหนี้ของคุณกับทุกสถาบันการเงิน เช่น:
- บัตรเครดิต
- สินเชื่อส่วนบุคคล
- สินเชื่อบ้าน รถ
- สินเชื่อดิจิทัล
ข้อมูลเหล่านี้จะใช้ประกอบการพิจารณาว่า คุณมีวินัยทางการเงินแค่ไหน และมีหนี้อยู่กี่รายการ
ทำไมต้องเช็กเครดิตบูโร?
- ตรวจสอบว่ามีรายการผิดปกติหรือไม่
- ป้องกันการถูกสวมชื่อ/ฉ้อโกง
- รู้สถานะหนี้และค้างชำระที่อาจลืมไป
- เตรียมตัวก่อนยื่นขอสินเชื่อใหม่
- วางแผนแก้ไขเครดิตล่วงหน้า หากเคยผิดนัดชำระ
วิธีเช็กเครดิตบูโรผ่านแอปธนาคาร (ง่ายที่สุด)
1. เช็กเครดิตบูโรผ่านแอป Krungthai NEXT
ขั้นตอน:
- เปิดแอป Krungthai NEXT
- ไปที่เมนู “บริการเพิ่มเติม” → “บริการเครดิตบูโร”
- ยืนยันตัวตนผ่าน NDID (Digital ID)
- ระบบจะแสดงรายงานแบบย่อ พร้อมประวัติการชำระ
- สามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF ได้
ค่าบริการ: 150 บาท/ครั้ง (หักจากบัญชีโดยตรง)
2. เช็กผ่าน SCB Easy
ขั้นตอน:
- เข้า SCB Easy → “บริการอื่น ๆ”
- เลือก “เช็กเครดิตบูโร”
- ยืนยันตัวตนผ่าน NDID หรือ SCB Connect
- รอผลภายในไม่เกิน 24 ชม.
- ดูสถานะบัญชีเครดิตแบบย่อ
3. เช็กผ่าน K PLUS (ธนาคารกสิกรไทย)
ขั้นตอน:
- ไปที่เมนู “บริการเพิ่มเติม” → “เครดิตบูโร”
- ยืนยันตัวตน
- เลือกรูปแบบรายงาน (แบบย่อหรือเต็ม)
- จ่ายค่าธรรมเนียมด้วยบัญชีของคุณ
- รายงานจะถูกส่งเข้าอีเมล/แอป
เช็กเครดิตบูโรผ่านเว็บไซต์ของ NCB
หากไม่ใช้แอปธนาคาร คุณสามารถสมัครเช็กผ่านเว็บไซต์ของ NCB โดยตรง
เว็บไซต์: https://www.ncb.co.th/
ขั้นตอน:
- เข้าเว็บไซต์ แล้วเลือก “เช็กข้อมูลเครดิตของคุณ”
- สมัครสมาชิก หรือเข้าสู่ระบบ
- อัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน, Selfie)
- เลือกรูปแบบรายงาน (ออนไลน์, ส่งไปรษณีย์, PDF)
- ชำระเงินด้วย QR Code หรือบัตรเครดิต
ข้อดี: ได้รายงานเต็มรูปแบบ (รวมรายละเอียดทุกบัญชี)
ข้อจำกัด: ใช้เวลาตรวจสอบนานกว่าธนาคาร (1–3 วันทำการ)
คำศัพท์น่ารู้ในการอ่านรายงานเครดิต
- บัญชีปกติ: ชำระตรงเวลา ไม่มีค้าง
- ค้างชำระ 30/60/90 วัน: แสดงว่ามีการผิดนัด
- บัญชีปิดแล้ว: ผ่อนครบแล้ว
- วงเงินคงเหลือ: จำนวนเงินที่ยังไม่ได้ใช้จากวงเงินทั้งหมด
- สถานะหนี้รวม: ภาพรวมของหนี้ปัจจุบันทุกบัญชี
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: เช็กเครดิตบูโรบ่อยเกินไปมีผลเสียไหม?
A: ไม่มีผลต่อคะแนนเครดิต และคุณสามารถเช็กได้ปีละหลายครั้ง
Q: ถ้าเจอข้อมูลผิด จะทำอย่างไร?
A: ติดต่อธนาคารที่เป็นเจ้าของบัญชี หรือแจ้งเรื่องที่ NCB เพื่อให้ตรวจสอบ
Q: รายงานแบบย่อกับแบบเต็มต่างกันอย่างไร?
A: แบบย่อจะแสดงเฉพาะสถานะโดยรวม แต่แบบเต็มมีรายละเอียดแต่ละบัญชี และประวัติย้อนหลัง
สรุป
การตรวจ เครดิตบูโรออนไลน์ เป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี การเช็กอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณรู้ว่ามีปัญหาอะไรไหม และจะปรับปรุงอย่างไรเพื่อให้พร้อมเมื่อจะขอสินเชื่อในอนาคต
ในยุคดิจิทัล การรู้เท่าทันเครดิตของตัวเอง คือก้าวแรกของการควบคุมอนาคตทางการเงินอย่างมั่นใจ