บัตรเครดิต Platinum, Gold และ Classic ต่างกันอย่างไร?

เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ วงเงิน และเงื่อนไขของบัตรแต่ละประเภท พร้อมคำแนะนำในการเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และรายได้

Platinum, Gold และ Classic

ในยุคที่บัตรเครดิตเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่หลายคนใช้ในชีวิตประจำวัน การเลือกบัตรเครดิตที่ “เหมาะกับตัวเอง” ถือเป็นก้าวแรกของการบริหารเงินที่ดี แต่บัตรเครดิตไม่ได้มีแค่แบบเดียว — หลายคนจึงอาจสับสนกับคำว่า Platinum, Gold และ Classic ว่าต่างกันอย่างไร

ระดับของบัตรเครดิตสะท้อนถึงสิทธิประโยชน์ วงเงิน และเกณฑ์รายได้ของผู้สมัคร หากเลือกบัตรให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้จ่าย ก็จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากขึ้นจากทุกการใช้บัตร

บัตรเครดิต Classic – เริ่มต้นง่าย ๆ สำหรับมือใหม่

บัตรเครดิตระดับ Classic หรือ Standard เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่ระบบบัตรเครดิต เช่น นักศึกษาจบใหม่ พนักงานที่มีรายได้ประจำ หรือผู้ที่ไม่มีประวัติการใช้บัตรมาก่อน

จุดเด่นของบัตร Classic:

  • วงเงินไม่สูงมาก (1–2 เท่าของรายได้ต่อเดือน)

  • รายได้ขั้นต่ำเริ่มที่ประมาณ 10,000–15,000 บาท

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมได้ง่าย

  • ไม่มีบริการพรีเมียม เช่น ประกันเดินทางหรือเลานจ์

  • เหมาะกับการใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าน้ำมัน ค่าอาหาร

ข้อดี: เข้าถึงง่าย สร้างวินัยทางการเงินได้
ข้อจำกัด: สิทธิประโยชน์น้อย และไม่ได้สะสมแต้มเร็ว

บัตรเครดิต Gold – สิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นตามไลฟ์สไตล์

บัตร Gold เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มีรายได้ปานกลางและต้องการบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์มากกว่า Classic โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานบริษัทและผู้มีรายได้มั่นคง

สิ่งที่ได้จากบัตร Gold:

  • วงเงินสูงขึ้น และสามารถเพิ่มตามประวัติการใช้งาน

  • รายได้ขั้นต่ำมักอยู่ที่ 20,000–30,000 บาท

  • ได้คะแนนสะสมมากกว่า Classic (เช่น ทุก 25 บาท = 1 คะแนน)

  • เริ่มมีประกันการเดินทาง หรือบริการผ่อน 0%

  • มีโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้า ร้านอาหาร หรือโรงแรม

ข้อดี: เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างพื้นฐานกับพรีเมียม
ข้อจำกัด: ค่าธรรมเนียมรายปีเริ่มมี (ประมาณ 1,000–2,000 บาท) ถ้าไม่ถึงยอดใช้อาจต้องจ่าย

บัตรเครดิต Platinum – ระดับพรีเมียม สำหรับผู้ที่ต้องการมากกว่า

Platinum เป็นระดับที่เหนือกว่า Gold ทั้งในด้านสิทธิประโยชน์ วงเงิน และความพิเศษต่าง ๆ บัตรประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่เดินทางบ่อย ใช้บัตรเพื่อธุรกิจ หรือใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นประจำ

สิ่งที่ทำให้ Platinum แตกต่าง:

  • รายได้ขั้นต่ำ 30,000–50,000 บาทขึ้นไป

  • วงเงินเริ่มต้นสูงถึง 3–5 เท่าของรายได้

  • สิทธิ์เข้าเลานจ์สนามบินทั้งในและต่างประเทศ

  • ประกันชีวิต/ประกันเดินทางระดับสูง

  • Concierge Service (ผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชม.)

  • โปรแลกไมล์สะสม บัตร Priority Pass แถมฟรี ฯลฯ

ข้อดี: คุ้มสำหรับผู้ใช้บัตรประจำ และเดินทางบ่อย
ข้อจำกัด: ค่าธรรมเนียมรายปีสูง (บางใบยกเว้นได้ตามเงื่อนไข)

เปรียบเทียบแบบชัด ๆ: Classic vs Gold vs Platinum

คุณสมบัติ Classic Gold Platinum
รายได้ขั้นต่ำ 10,000–15,000 บาท 20,000–30,000 บาท 30,000–50,000+ บาท
วงเงินบัตร 1–2 เท่าของรายได้ สูงขึ้นตามเครดิต สูงสุด เริ่มที่ 3–5 เท่า
คะแนนสะสม บางใบมี, ไม่เร็วมาก เร็วขึ้น (เช่น 25 = 1) สะสมเร็ว, แลกไมล์ได้ดี
สิทธิพิเศษ ขั้นพื้นฐาน โปรโมชั่น, ประกันเดินทาง เลานจ์, Concierge, ไมล์
ค่าธรรมเนียมรายปี ต่ำหรือฟรี กลาง (1,000–2,000) สูง (3,000–5,000+)

ตัวอย่างสถานการณ์: เลือกบัตรให้เหมาะกับตัวเอง

  • มนุษย์เงินเดือนรายได้ 14,000 บาท
    → เริ่มต้นด้วยบัตร Classic เพื่อสร้างเครดิต

  • พนักงานออฟฟิศรายได้ 28,000 บาท
    → เลือกบัตร Gold ได้โปรโมชั่นเพิ่มและวงเงินสูงขึ้น

  • เจ้าของธุรกิจรายได้ 60,000 บาทขึ้นไป
    → ใช้บัตร Platinum เพื่อแลกไมล์และสิทธิพิเศษด้านการเดินทาง

คำถามที่พบบ่อย

Q: ถ้ารายได้ไม่ถึงเกณฑ์ Platinum ยังสมัครได้ไหม?
A: ได้หากคุณมีสินทรัพย์หรือเงินฝากกับธนาคารนั้น ๆ จำนวนมาก ธนาคารบางแห่งยืดหยุ่นเกณฑ์รายได้ในกรณีนี้

Q: บัตร Gold กับ Platinum ใช้สะสมไมล์ต่างกันแค่ไหน?
A: Platinum จะมีอัตราแลกไมล์ที่ดีกว่า เช่น ทุก 15–20 บาท = 1 ไมล์ และมีโปรจับคู่ไมล์กับสายการบิน

Q: ถ้าเริ่มจาก Classic แล้วใช้ดี ธนาคารจะอัปเกรดให้ไหม?
A: หากคุณมีประวัติชำระตรงเวลา และมีการใช้จ่ายสม่ำเสมอ ธนาคารมักเสนอการอัปเกรดให้อัตโนมัติ

สรุป

การเลือกบัตรเครดิตไม่ใช่แค่ “เลือกจากชื่อ” แต่คือการเลือกเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมกับพฤติกรรม รายได้ และเป้าหมายของคุณ

  • Classic: เหมาะกับผู้เริ่มต้น

  • Gold: เหมาะกับคนทำงานทั่วไป

  • Platinum: เหมาะกับผู้มีรายได้สูง/เดินทางบ่อย/ต้องการสิทธิพิเศษครบ

เลือกให้ตรงกับตัวคุณ แล้วบัตรเครดิตจะกลายเป็นผู้ช่วยทางการเงินที่ทรงพลัง ไม่ใช่ภาระที่เพิ่มหนี้ในระยะยาว